About WAWEE TEA
The Best Tea from Northern Thailand.
หมู่บ้านวาวีตั้งอยู่กลางหุบเขาในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หรือที่เรารู้จักในชื่อ “ชาวจีนยูนนาน”
ผู้ที่เข้ามาบุกเบิกและเริ่มทำชาคนแรกคือ พ่อเฒ่านุ สุนา และญาติ ๆ
แต่ด้วยในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องจักรช่วยในการผลิตชา ชาวบ้านจึงนิยมขายเป็นใบชาสด , ทำเป็นเมี่ยง หรือนำไปแลกกับเกลือ ซึ่งในสมัยนั้น “เกลือ” ถือเป็นสิ่งจำเป็นและหายาก โดยเฉพาะตามหมู่บ้านบนเขาห่างไกล
เมื่อเริ่มอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่ดอยวาวี คุณพินิจ พิทักษ์วาวี มองเห็นว่าภูมิประเทศบนดอยวาวีมีความแตกต่างของอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส ในหนึ่งวัน
โดยอุณหภูมิตอนเช้าจะอยู่ที่ประมาณ 3 องศาเซลเซียส และตอนกลางวันจะอยู่ที่ 23 - 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการปลูกชา โดยเฉพาะชาอู่หลง ถ้าได้สายพันธุ์ชาที่ดีจะยิ่งทำให้สามารถผลิตชาคุณภาพดีได้ และในสมัยนั้น ชาอู่หลงถือเป็นชาที่มีราคาแพง อีกทั้งยังเป็นที่นิยมดื่มของคนไทย แต่ในประเทศไทยไม่มีชาพันธุ์นี้อยู่เลย ด้วยสายสัมพันธ์ที่ทำการติดต่อค้าขายกับประเทศไต้หวันอยู่บ่อยครั้ง คุณพินิจจึงได้ลักลอบนำสายพันธุ์ชาอู่หลงมาจากประเทศไต้หวัน โดยการตัดกิ่งเป็นท่อนแล้วนำมาห่อใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ แอบลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมาขยายพันธุ์เพิ่มและปลูกเป็นที่แรกในพื้นที่ดอยวาวี ได้ชื่อว่าเป็น “แปลงปลูกชาอู่หลงก้านอ่อนที่แรกในประเทศไทย”
นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์การทำชามานานกว่า 60 ปี ของคุณพินิจ พิทักษ์วาวี รวมทั้งความต้องการอนุรักษ์ต้นชาป่าบนดอยวาวี ซึ่งเป็นแหล่งป่าต้นน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ซึ่งในระยะหลังเริ่มมีชาวบ้านทำการตัดโค่นต้นชาป่าโบราณทิ้งเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ
คุณพินิจจึงได้ริเริ่มทำชาผู่เอ๋อร์ตามต้นตำหรับยูนนาน โดยการเดินทางไปศึกษาการทำชาผู่เอ๋อร์เพิ่มเติมที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน
จนชาผู่เอ๋อร์จากดอยวาวีเริ่มเป็นที่รู้จักของพ่อค้าชาต่างชาติและคอชาชาวไทย สามารถสร้างงานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับต้นชาป่าโบราณในชุมชน
ต้นชาชาป่าบนดอยวาวียังถือได้ว่าเป็นต้นชาที่มีอายุเยอะมากที่สุดในประเทศไทย
อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 300 – 900 ปี รสชาติของชาผู่เอ๋อร์ที่ทำออกมาจึงมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และมีลักษณะเด่นของชาตระกูลผู่เอ๋อร์เทียบเท่าชาผู่เอ๋อร์ชื่อดังจากจีน
ทำให้นับจากนั้นมา ชาผู่เอ๋อร์จากดอยวาวีเป็นที่ต้องการของตลาดชาในประเทศจีน จนกระทั่งขยายตัวไปสู่ทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
ในฐานะคนทำชา ที่ได้รับการยกย่องจากคนทำชาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ คุณพินิจ พิทักษ์วาวี รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนในการรักษาต้นชาป่า อันถือว่าเป็นสมบัติของชาติเพื่อคงไว้เป็นสมบัติให้ลูกหลานสืบไป